DIABLO IV – ความมันส์ที่ชวนให้รู้สึกมีความหวังกับซีรีส์อีกครั้ง

Diablo IV ในเวอร์ชั่น PC พร้อมรับฟังข้อมูลอัปเดตใหม่ๆ ของตัวเกม อย่างไรก็ตามไฮไลต์สำคัญคือการได้ทดสอบตัวเกมที่หลายๆ คนเฝ้ารอกันนี่แหละครับ โดยเนื้อหาเวอร์ชั่นทดสอบเราสามารถเล่นได้ถึงเลเวล 25 ในแผนที่เฉพาะ Act 1 เท่านั้น และเนื่องจากตัวเกมกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา พวกกราฟิกรวมถึงองค์ประกอบต่างๆ จึงยังไม่ใช่เวอร์ชั่นที่จะให้เล่นกันจริงๆ ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่ทาง Blizzard จะขอห้ามเผยแพร่ภาพ Screenshot ของตัวเกมในช่วงทดสอบไว้ก่อน แม้กระนั้นเราก็ได้เล่นกันจริงๆ และจะขอบรรยายถึงความรู้สึกหลังจากได้ลองเทสต์กันไป ส่วนภาพประกอบก็จะมาจาก Official Diablo IV ที่เคยเผยแพร่มาแล้วเท่านั้นครับ

Diablo IV จะสานต่อจาก Diablo 3 หลังจากการตายของ Malthael ในภาค Reaper of Souls มีผู้คนล้มตายมากมาย และเหล่าผู้คนก็ต่างพากันเอาชีวิตรอดออกจากยุคมืด เวลาผ่านมาหลายปีหลังจากที่ค่อย ๆ ฟื้นตัวกันได้แล้ว ก็มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น เหตุการณ์ที่จะทำให้โลก Sanctuary แห่งนี้เปลี่ยนไปตลอดกาล Diablo 4 จะพูดถึงการมาของ Lilth ลูกสาวของ Mephisto, Lord of Hatred บอสใน Diablo 2 ที่เธอได้ถูกอัญเชิญมาด้วยพิธีกรรมมืดบางอย่าง พร้อมกับกลุ่มลัทธิที่ต้อนรับการมาของ Lilth

DIABLO IV – ความมันส์ที่ชวนให้รู้สึกมีความหวังกับซีรีส์อีกครั้ง

โดยรวมแล้ว Diablo IV เป็นภาคที่น่าคาดหวังครับเพราะสำคัญที่สุดเลยคือมันเล่นได้สนุก เป็นภาคที่ผมรู้สึกว่าถูกปรับปรุงมาจาก Diablo III และ Diablo II Resurrected ได้อย่างดีเลยทีเดียว อะไรควรแก้ก็ถูกแก้ตรงจุด อะไรดีอยู่แล้วก็เพิ่มให้ดียิ่งขึ้นและตรงประเด็น รูปแบบการเล่น Open World เพิ่มอิสระในการเล่นมากยิ่งขึ้นไม่ต้องเดินเรื่องเป็นเส้นตรงก็ได้ แถมมี Achievement รองรับและได้ของรางวัลอีกด้วย ทั้งนี้ตัวเกมอาจมีความความยากความท้าทายที่เพิ่มมากขึ้นก็จริง แต่เราก็มีบิลด์ของตัวละครที่หลากหลายมาเพื่อรับมือเช่นกัน ขณะที่ตัวเนื้อเรื่องกลับสู่ความดุดันอีกครั้ง การมาของ Lilith จะเป็นการเปิดเรื่องราวที่ใหญ่โตขึ้น ได้ลุ้นกับตัวละครสำคัญๆ อินกับเนื้อเรื่องมากขึ้นแน่นอน ขณะที่ผู้พัฒนาก็ยังกล่าวเสริมว่า “ถ้าผู้เล่นเล่นเนื้อเรื่องจนจบเมื่อไหร่ นั่นแหละมันคือการเริ่มเกมอย่างแท้จริง!” แบบนี้ตัวเต็มออกเมื่อไหร่ก็เจอกัน ไม่พลาดแน่นอนครับ

DIABLO IV – ความมันส์ที่ชวนให้รู้สึกมีความหวังกับซีรีส์อีกครั้ง

ระบบสกิล Diablo IV นั้นจะถูกเปลี่ยนใหม่หมด เราสามารถสร้างการเล่นในแบบของตัวเองได้ด้วยตารางการอัปฯ สกิลทักษะติดตัว ที่จะมีเข้ามาให้เลือกมากมาย ซึ่งตรงนี้จะทำให้สามารถปลดความสามารถของตัวละครเข้ามาอีกระดับหนึ่ง ทั้งนี้ตัว Skill Tree จะคล้ายคลึงกับภาค 2 แต่จะไม่เหมือนกันเสียทีเดียว เพราะมีรายละเอียดเยอะมากๆ แยกกันชัดเจนทั้ง Active Skill และ Passive Skill รวมถึงการอัปเกรด Nodes ตัวเสริมจากสกิลนั้นๆ อีกด้วยและระบบ Paragon เองก็ยังสามารถเพิ่มความสามารถได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดเช่นเดียวกัน ทุกอย่างที่กล่าวมาจะส่งผลอย่างแน่นอนกับบิลด์ที่จะเกิดขึ้นในตอนเล่นจริง มันจะมีความหลากหลายและอิสระมากยิ่งขึ้นกว่าทุกภาคที่ผ่านมา สกิลยังสามารถรีเซ็ตได้ แต่ก็ใช้เงินเยอะมากๆ ทั้งนี้ตัวเกมจริงอาจจะมีข้อมูลมากกว่าที่ผมได้เห็นมา เพราะสามารถทดสอบได้แค่เลเวล 25 เท่านั้นครับ

DIABLO IV – ความมันส์ที่ชวนให้รู้สึกมีความหวังกับซีรีส์อีกครั้ง

อันนี้ต้องย้ำจริงๆ ว่ามอนสเตอร์ในเกมรวมไปถึงบอสจะถูกยกเครื่องใหม่ทั้งหมด ทุกๆ ตัวสามารถใช้สกิลใส่เราได้ ไม่ว่าจะเป็นตัวเล็กตัวน้อยขนาดไหนก็ตาม มันยังมีการโจมตีอย่างมีแบบแผน เพราะ AI ฉลาดขึ้น ตัวไหนชน ตัวไหนป่วน จะมีการวางกลยุทธ์เพื่อมารับมือกับเราที่น่าปวดหัวคงจะเป็นเหล่าบอสต่างๆ ที่นอกจากจะฉลาดขึ้นแล้วยังสามารถหนีหรือหลบสกิลของเราได้อีกด้วย ทั้งยังอัดหนักอัดแรงโดนสกิลทีอ้วกแตก ถึงจะมีจำนวนขวดเลือดมาให้กดเยอะขึ้นถ้าโดนบ่อยๆ ก็นอนยาวๆ ได้เช่นกันอย่างตอนททดสอบ ผมไม่ได้ฟาร์มของไปมากนัก เลยลองไปตบบอสเนื้อเรื่องธรรมดาก็ใช้เวลาค่อนข้างนานในการจับจุดจับสเต็ปเพื่อรับมือ เรียกว่าลำบาก และตึงพอสมควรทีเดียว สนุกดีครับ โดนใจสายที่ชอบความท้าทายแน่นอน

พวกอาวุธ, ชุด และเครื่องประดับ ก็จะถูกแบ่งตามระดับต่างๆ อย่างที่เราคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว รวมถึงการกลับมาของไอเทมระดับ Unique และพิเศษยิ่งกว่ากับไอเทมระดับ Mythic ที่จะใส่ได้แค่ชิ้นเดียวเท่านั้นแต่จะได้ความสามารถถึง 4 แถวเลยทีเดียว เป็นอีกชิ้นที่น่าสนใจมากๆ ใช้ได้ยันจบเกมแน่นอนระบบรูนที่คิดถึงเราจะได้เจอในภาคนี้เช่นกัน แต่ความสามารถจะแตกต่างออกไปซึ่งมันมีเยอะและยืดหยุ่นในการเล่นมากๆ แต่ละชิ้นสามารถอัปเกรดได้ เจาะรูได้ ใส่เพชรได้ และระหว่างเล่นเราจะมีไอเทมแดงหรือไปเทมระดับ Legendary ให้ใช้เรื่อยๆ แต่อย่าเพิ่งดีใจกับไอเทมระดับสูงขนาดนั้นเพราะ Diablo IV ค่อนข้างจะให้ความสำคัญกับไอเทมในทุกระดับ เพราะแม้ระดับจะแตกต่างกัน แต่ส่วนสำคัญก็ยังอยู่ที่ค่าความสามารถที่ติดมาอยู่ดี ถ้าไม่เข้ากับความสามารถของเราสิ่งที่ได้มาก็อาจไร้ประโยชน์ไปเลยก็เป็นได้