รีวิวเกมฟุตบอลขวัญใจผู้เล่นทั่วโลก FIFA 21 กับภาคที่เน้นปรับปรุงเกมให้น่าเล่นขึ้น

ณ ปัจจุบันตอนนี้ FIFA ได้มี Content หลากหลาย ให้แฟน ๆ วงการลูกหนัง ให้เล่นสไตล์ที่ชื่นชอบกัน บางคนชอบเล่นเป็นผุ้จัดการทีมก็มี My Manager หรืออยากจำลองเป็นชีวิตนักเตะ ก็มี My Player  ทั้ง 2 โหมดนี้เล่น Offline ได้ที่ My Career บางคนชื่นชอบการเล่นออนไลน์แข่งขันกับคนอื่น ก็มี Seasons หรือ Co-op Season ก็ได้ถ้ามีเพื่อนอยากเล่นด้วย ถ้ามีเพื่อนกันเยอะ ชวนกันสร้ามทีมฟุตบอล เล่นคนละตำแหน่ง โหมด My Pro ที่เปิดให้เล่นด้วยกันถึง 11 คนก็ตอบโจทย์ โหมดที่สร้างชื่อเสียงมากที่สุดของ FIFA ก็หนีไม่พ้น Ultimate Team ที่ให้ผู้เล่นสร้างทีมขึ้นมาเองโดยมีกำลังทรัพย์ เป็นปัจจัยในการทำทีม  มีทั้งประมูล-ซื้อขายนักเตะ เปิดซอง มันใช้ทั้งเงิน ใช้ทั้งดวง เรียกได้ว่า เป็นโหมดที่ดึงดูดแฟน ๆ ทั่วโลกมากที่สุด และทีมงาน GamingDose ก็เป็น 1 ในนั้นที่ใช้เวลาและทรัพย์สินเป็นจำนวนมากให้กับโหมดนี้

โดย EA SPORT FIFA ถือเป็นซีรีส์เกมฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในปัจจุบัน แม้จะมีคู่แข่งบ้างแต่ตัวเกมก็ไม่เคยถูกโค่นเลยสักครั้งด้วยระบบการเล่นที่เป็นเอกลักษณ์ มีความกลมกล่อมในตัวเองรวมถึงโหมดที่ทำให้ใครต่อใครต่างก็ติดหนึบอย่าง FUT หรือ FIFA Ultimate Teamโหมดสร้างทีมที่คุณชื่นชอบเล่นออนไลน์ประลองฝีมือกับคนทั่วโลกปีนี้แม้ว่าเกมกีฬาทั้งหลายจะต้องสรรหากรรมวิธีต่างๆ มาช่วยเหลือเนื่องจากสถานการณ์COVID-19แต่ในปีนี้ FIFA กลับมาแบบเต็มสตรีมเหมือนไม่ได้ผ่านช่วงCOVID มาก่อนกับ FIFA 21ภาคใหม่ล่าสุดของเกมฟุตบอลที่มาแรงที่สุด ณ ตอนนี้

รีวิวเกมฟุตบอลขวัญใจผู้เล่นทั่วโลก FIFA 21 กับภาคที่เน้นปรับปรุงเกมให้น่าเล่นขึ้น

ใน FIFA 20 ทีมงานได้คุยโม้ไว้อย่างดีว่าจะยกระดับ Career Mode นี้ให้มีความสดใหม่และน่าสนใจมากขึ้นกว่าภาคก่อน ๆ แต่ปรากฏไม่เป็นดังที่หวังกันไว้ แถมยังสร้างปัญหาที่ต้องกลับมาแก้ไขด่วนในภาคนี้ ทั้งปัญหาทางเทคนิคที่ทำให้ไม่สามารถเล่นต่อไปได้ ตารางการแข่งขันที่ไม่สมจริงเอาเสียเลย ระบบ Dynamic Player Potential ก็ไม่ค่อยสมเหตุสมผล กลายเป็นว่าFIFA 21จะต้องทำการบ้านให้ดีกว่านี้ ถ้าอยากจะเรียกศรัทธาจากแฟนๆ

รีวิวเกมฟุตบอลขวัญใจผู้เล่นทั่วโลก FIFA 21 กับภาคที่เน้นปรับปรุงเกมให้น่าเล่นขึ้น

กราฟิกที่เหมือนจะดูดีแต่ไม่ละเอียดเท่าค่ายคู่แข่ง

ก่อนที่จะไปดูรายละเอียดพวกโหมดหรือ Gameplay ขอหยิบยกประเด็นเรื่องกราฟิกขึ้นมาก่อนเป็นอันดับแรก FIFA 21 ยังคงใช้เอนจิ้น Frostbite ในการพัฒนาซึ่งทางทีมพัฒนาบอกว่ามันถูกปรับปรุงให้แสดงผลออกมาสวยงาม และมีรายละเอียดที่ดีขึ้นแต่ส่วนตัวแล้วหลังจากที่ลองเล่นดูพบว่ามันแทบจะไม่ต่างจากในภาคก่อนเท่าไหร่นักและเมื่อมองในส่วนของรายละเอียดหน้าตานักเตะแล้วทางค่ายคู่แข่งกลับดูดีและมีรายละเอียดที่เหมือนกับตัวนักเตะจริงๆ เสียมากกว่าทำให้แอบคิดเล่นๆว่าในภาคต่อจากนี้ถึงเวลาหรือยังที่ EA จะเปลี่ยนเอนจิ้นไปใช้ตัวอื่นหรือปรับปรุงเอนจิ้นของตัวเองให้ดีกว่าคู่แข่ง เพราะ Konami เองก็หันไปใช้ Unreal Engine 5 ไปแล้ว

รีวิวเกมฟุตบอลขวัญใจผู้เล่นทั่วโลก FIFA 21 กับภาคที่เน้นปรับปรุงเกมให้น่าเล่นขึ้น

อีกหนึ่งสิ่งที่ปรับปรุงเรื่องฟีสิกส์คือระบบ Natural Collisions ปรับของเดิมที่กองหลังวิ่งไม่ดูทาง สะดุดทีมเดียวกันล้ม เปิดโอกาสให้คู่แข่งฉีกบอลไปสบาย ๆ จนถึงขั้นแพ้ ปรับให้หลีกเลี่ยงการล้มได้ดีขึ้น ผู้เขียนสังเกตว่าลูกชุลมุนในกรอบเขตโทษนั้นลุ้นสนุกและไม่มั่วเช่นเคยแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ปรับปรุงเรื่องฟีสิกส์คือระบบ Natural Collisions ปรับของเดิมที่กองหลังวิ่งไม่ดูทาง สะดุดทีมเดียวกันล้ม เปิดโอกาสให้คู่แข่งฉีกบอลไปสบาย ๆ จนถึงขั้นแพ้ ปรับให้หลีกเลี่ยงการล้มได้ดีขึ้น ผู้เขียนสังเกตว่าลูกชุลมุนในกรอบเขตโทษนั้นลุ้นสนุกและไม่มั่วเช่นเคยแล้ว

และแน่นอนว่า FIFA ภาคใหม่ กับฟีเจอร์ใหม่ ๆ มักจะเป็นของคู่กัน ในภาคที่แล้ว มีการปรับการยิงฟรีคิกส์ และการยิงจุดโทษ ซึ่งน่าจะเป็นระบบที่หลาย ๆ คนชอบ (มีหลายคนไม่ชอบเหมือนกัน) ในภาคนี้มีการปรับเปลี่ยนค่อนข้างเยอะ โดยทั้งหมดนี้น่าจะเป็นการทดลอง ชอบไม่ชอบไปว่ากันอีกที เริ่มจาก Player Runs ที่ผู้พัฒนาออกมาบอกเลยว่า มันคือไพ่ตายระดับสูงของภาคนี้ อธิบายง่าย ๆ โดยปกติแล้ว การส่งบอล หรือการทำอะไรที่ต้องมีคนรอรับ จะเป็นการวางแผนล่วงหน้าไว้ และอาจไม่ได้ดั่งใจคุณตลอดเวลา แต่ในภาคนี้ พวกเขาเปิดโอกาสให้คุณควบคุม ‘คนรับบอล’ หรือเพื่อนในทีมที่คุณจะส่งบอลไปให้นั่นล่ะ

อัพเดทข่าวสารเกี่ยวกับเกมส์ คลิกที่นี่
ราคา
Nintendo Switch- FIFA 21 ราคา 1,690 บาท
PlayStation 4- FIFA 21 ราคา 1,890 บาท