ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ตอน 2 ปีที่ผ่านมา OG นับเป็น “หนึ่งเดียว” ในวงการโดต้าที่ถูกหยิบยกมาพูดถึงและเป็นกล่าวขวัญมากที่สุดจากตำนานการคว้าแชมป์โลก Dota 2 The International หรือ TI สองสมัยซ้อน (TI 2018-2019) ซึ่งไม่มีทีมใดทำได้มาก่อน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าจะลงแข่งชิงแชมป์โลกเมื่อปีก่อน ทีมของพวกเขายังอยู่ในสภาพร่อแร่จะแตกมิแตกแหล่จนหลายไม่กล้าแม้แต่จะคิดว่า นี่จะเป็นยอดทีมระดับประวัติศาสตร์ในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านเส้นทางแสนยากลำบาก ผ่านการร่วมทุกข์ร่วมสุขบนเส้นทางสายอีสปอร์ตกันมา 2 ปี ดูเหมือนการคว้าเงินรางวัลรวมกันจาก TI สองรายการกว่า 26.8 ล้านดอลล่าร์ฯ (ประมาณ 810 ล้านบาท) จะทำให้ผู้เล่นบางคนอย่าง Topson และ Ana ก้าวสู่จุดอิ่มตัวของอาชีพ
ประกาศลาพักพร้อมเพรียงกันแบบไม่มีกำหนด ปล่อยให้ 3 ผู้เล่นที่มีหุ้นอยู่ในทีมอย่าง N0tail, Ceb และ JerAx รัน OG Dota 2 ต่อ โดยที่ไม่รู้ว่า ท้ายที่สุด ทีมชุดแชมป์โลก 2 สมัยจะได้รวมตัวกันอีกทีเมื่อไร นั่นเอง
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตอนมองย้อนหลังกลับไปเราสนุกกับการผจญภัยกันมาก มันเป็นอะไรที่พิเศษสุดสำหรับพวกเรานั่นเองและ โดต้า (Dota2) ถือเป็นหนึ่งในเกมที่คอมมูนิตี้ทำเพื่อคอมมูนิตี้ และเราก็คิดว่าถึงเวลาที่เราจะมอบบางสิ่งบางอย่างคืนให้คอมมูนิตี้บ้าง โดยการให้ความรู้และประสบการณ์ที่เรามีมาตลอดทั้งปีให้แก่ทีมชุดใหม่
N0tail บอกเล่าที่มาที่ไปในการเปลี่ยนสถานะจาก”ปะป๋า” ของทีม (ฉายาแกคือ Big Daddy) สู่การเป็น “ป๋าดัน” ทีมลูกทีมใหม่ของ OG ที่มีชื่อว่า OG Seed